คลังบทความของบล็อก

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Die for you...แม่ทัพตัวร้ายของนายฉกาจ(2)

     

  ตอนที่2


          จากการที่ไรโน่มาโรงเรียนในเปิดเทอมวันแรก  เขาได้ปะทะฝีปากกับวันเวย์ศัตรูฟ้าประทาน  และเป็นที่แน่นอนว่าชัยชนะจะตกอยู่ในมือของใคร  นัมแจรยงไม่ใช่เด็กอมมือและไม่ใส่ใจการกลั่นแกล้งเล็กๆเหมือนแมลงวันตอมหางของวันเวย์

          “เฮ้!ไรโน่เป็นไงมั่ง แกออกจากโรงบาลเมื่อไหร่เนี่ย  ตอนฉันไปเยี่ยมแกเจอกับยัยเอแคลร์เน่าเลยไม่ได้เข้าไปหาโทษทีนะ” แชมพูหนุ่มน้อยหน้าหวานเพื่อนสนิทจริงๆเพียงคนเดียวของไรโน่เดินมาทักเมื่อเห็น  คนที่น่าจะหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บ้านมาโรงเรียนด้วยอาการปกติ

          “ทำไมวันนี้นายพูดมากนักหมีพูห์” ไรโน่ล้อชื่อที่เจ้าตัวแสนจะเกลียด

          เพราะอะไรหน่ะหรอ  ก็แชมพูชื่อที่แม่ตั้งให้มันเหมือนผู้หญิง  แถมไรโน่ยังชอบเรียกว่าหมีพูห์ด้วย  จะน่ารักไปไหน  แก้มป่องๆนั้นตูมขึ้นเพราะไม่พอใจที่เพื่อนมาเรียกชื่อ

          “ไรโน่ ไอ้บ้า! อย่ามาเรียกชื่อนี้เรานะ บอกให้เรียกพี่เสือไง พี่เสือ หัดจำใส่สมองมั่ง”

          “ปิดเทอมนานหรือไงทำไมน่ารักขึ้นนะหมีพูห์” ไรโน่เอ็นดูสหายน้อย  ที่ช่างจิ้มลิ้มเหมือนสาวแรกรุ่น  ถ้าไม่ติดว่าเป็นชายแม่ทัพผู้นี้จะคว้ามากอดให้สมใจ

          “ไอ้ไรโน่!” แชมพูเกลียดที่สุดเวลามีคนมาชมว่าน่ารัก

          ตลอดคาบเรียนเขาตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอน  แม้จะยากไปสักนิดที่จะทำความเข้าใจแต่ก็ไม่เกินความสามารถ  ขณะที่ไรโน่สนใจการเรียน  วันเวย์ก็จ้องมองแต่แผ่นหลังของเขา  ในหัวคิดแต่หาวิธีเอาคืนให้ได้

          “ไรโน่ วันเวย์มันมองแกตั้งแต่ต้นชั่วโมงแล้วนะ” แชมพูกระซิบบอก

          “อืม” แค่ตอบรับในลำคอก่อนจะกลับไปสนใจกระดานดำ

          ตลอดทั้งวันไรโน่ถูก วันเวย์ตามหาเรื่องตลอดจนกระทั่งเลิกเรียน  นักเรียนช่างนับสิบคนมายืนอออยู่ปากประตูโรงเรียนกำลังมองหาใครบางคน  เมื่อเห็นไรโน่พวกมันโห่ร้องพากันเดินเข้าหาหวังมีเรื่อง  แต่พวกมันคิดผิดแล้ว  นัมแจรยงผู้ไม่หันหลังให้ศัตรูไม่เคยออมมือกับผู้ที่ลงมือก่อน

          “ได้ข่าวว่ากวนเบื้องล่างใช่ไหมครับน้อง” เด็กช่างหน้าแก่ที่สุด แถมไว้หนวดจนดูไม่เหมือนนักเรียนออกหน้าก่อน

         “จะรีบไปไหนครับน้อง  ให้พวกพี่ไปส่งเพื่อนน้องดีไหมครับ”  แชมพูที่เดินมาด้วยกัน  กลายเป็นเป้าหมายใหม่

          “ไรโน่..ไปเหอะเร็วๆ!” แชมพูเร่งให้ออกเดิน  เพราะพวกเด็กเกเรทำท่าจะเข้ามาจับมือตัวเองแล้ว

          “เดี๋ยวจะไปไหน  เพื่อนน้องพี่จะดูแลให้เอง  ส่วนมึงพวกกูคงต้องขอให้มาเป็นกระสอบทรายสักวัน”  พวกมันเฮฮากันสนุกปาก  เมื่อเห็นไรโน่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย

          “โอ้ย..! ปล่อยสิวะ ไรโน่ช่วยด้วย”  เมื่อเด็กช่างคนหนึ่งกระชากแขนของแชมพูเข้าหาตัว  ไรโน่ก็ซัดฝ่ามือเข้ากลางอกมันจนกองลงไปกับพื้น  แล้วดันแชมพูมาไว้ข้างหลัง

          นักเรียนรอบด้านต่างไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม  แม้แต่อาจารย์เองก็ทำได้แค่ยืนดูอยู่ห่างๆ  บ้างก็รีบโทรแจ้งตำรวจ  เสียงซุบซิบดังขึ้นเมื่อทุกคนไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น  แชมพูก็กลับมาหลบอยู่ไรโน่แล้ว  ส่วนเด็กช่างคนนั้นก็หมอบลงไปแน่นิ่งกับพื้น

          “มึง…” แค่คำเดียว  แรงเตะหนักหน่วงของไรโน่ก็แสดงให้เห็นว่ามีพลังขนาดไหน

          พูดไม่จบประโยคดี  เด็กช่างอีกคนที่ร่วงเป็นใบไม้  นอนคอพับชักกะตุกอยู่ที่พื้น  คนที่เหลือต่างถอยหนี  เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมรอบทิศ  ในความรวดเร็วและแม่นยำของลูกเตะสายฟ้าที่ทุกคนตั้งชื่อให้

          หมัดขวาซัดเข้าที่ลิ้นปี่ของอีกคนจนลิ้นห้อย  มันจุกจนพูดไม่ออกก็ถูกเข่ากระแทกเข้าที่ท้อง  จนต้องขย้อนเอาน้ำเหนียวๆในกระเพาะออกมา

          “ไอ้เด็กนั่นฝีมือไม่เลวเลยว่ะ”  ร่างปริศนาในชุดช็อปสีเลือดหมู  นั่งมองการวิวาทของเด็กๆอยู่อีกฝั่งในร้านขายขนม

          “ลูกเตะเมื่อกี้แมร่งอย่างเจ๋ง!  ยังกับบัวขาว” อีกคนสนับสนุน

          “กาจมึงสนใจที่พวกกูพูดหน่อยสิเฮ้ย!”  เพื่อนทั้งสองมองไปที่ฉกาจ  ผู้มีใบหน้าตายด้านไม่รู้สึกรู้สาใดใด

          “ออดี้มึงดูเพื่อนมึงนะ”  เมาเท่นเรียกออดี้ให้ดูสายตาของฉกาจที่นับวันจะเป็นผีดิบขึ้นทุกที

          “เก็กหน้าเอาโล่หรอครับเพื่อน หรือมึงหลับใน” ออดี้โบกมือตรงหน้าฉกาจยืนยันว่า  อีกฝ่ายยังไม่ได้หลับ

          “ก็แค่เด็กตีกัน” ฉกาจปัดมือออดี้ออกอย่างรำคาญ

          “แต่ไอ้เด็กนั่นมันหน่วยก้านใช้ได้เลยนะ  โตขึ้นไม่รู้จะร้ายกาจขนาดไหน” เมาเท่นออกความเห็นเมื่อเจอแม่ไม้มวยไทยของไรโน่

          “ออดี้มึงดูเพื่อนมันอีกคนดิที่ยืนข้างๆกัน  โคตรน่ารักเลย”  เมาเท่นหมายถึงแชมพู

          “แฟนไอ้เด็กโหดนั่นหรือเปล่าวะ” ออดี้เห็นแชมพูเกาะแขนไรโน่แน่นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย

          “กูจะไปดูน้องน่ารักหน่อย  เพื่อฟลุ๊ค” เมาเท่นเดินออกไปที่กลุ่มยองเด็กช่าง

          ตอนนี้มีห้าคนที่นอนหมอบกับพื้นไปแล้ว  บรรดานักเรียนมุงทั้งหลายต่างใบ้กิน  เมื่อเจอบัวขาวตัวเป็นๆ  ทั้งเข่าศอก หมัดและลูกเตะที่เรียกได้ว่าแรงวัวแรงควายจากขายาวๆนั้น

          “เฮ้ย!พวกมึงสนุกกันมากไหม” เมาเท่นเดินไปเหยียบหัวเด็กช่างคนหนึ่ง

          “พะ..พี่เมาเท่น”  ถึงกับติดอ่างเมื่อเห็นเมาเท่นที่ไม่คิดว่าจะมาปรากฏตัวแถวนี้

          เมาเท่นเป็นรุ่นพี่ช่างที่ใครใครต่างก็รู้จักดี  แต่ว่าถ้าเป็นแค่รุ่นพี่ธรรมดาพวกเขาคงจะไม่เกร็งกันขนาดนี้  เมาเท่นเป็นเด็กแก๊งค์แถมเป็นแก๊งค์ที่มีอิทธิพลไม่ธรรมดาด้วย  เพราะโรงเรียนของไรโน่นั้นอยู่ในเขตของแก๊งค์ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าหากเขาจะมาปรากฏตัว

           “ใครใช้มึงมาหาเรื่องเด็กนี่วะ”  เมาเท่นบดรองเท้าที่หน้าแรงขึ้น  และชะโงกตัวลงมาถามอย่างยียวน

          “ผม..พวกผมขอโทษพี่  ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”  ระหว่างเงินนิดหน่อยกับชีวิตใครก็ต้องเลือกชีวิตอยู่แล้ว

         “กูถามไม่ได้ยิน?”  เมาเท่นไม่ใช่คนใจเย็น  ถึงท่าทางจะขี้เล่นแต่เขานับได้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนทีเดียว

          “ผมไม่รู้พี่…รู้แต่ไอ้เด็กนั่นมันไม่ถูกกัน..เลยมาหาพวกผมพร้อมเงินอีกสามหมื่น”  พอได้ฟังที่มันสารภาพเมาเท่นก็ยิ่งโมโห

          “มึงกล้าเข้ามากร่างในเขตกูเพราะเงินแค่สามหมื่นเองเนี่ยนะ  นี่มึงโง่หรือโง่กันวะ”  เท้าที่สวมรองเท้าหนังหัวเหล็กเตะเข้าที่ใบหน้าของหนึ่งในนั้น  จนเลือดกระเซ็นเต็มรองเท้า

          “ฮึ่ย!..ไรโน่ไปกันเถอะเรากลัว”  แชมพูทำท่าดึงไรโน่ออกจากวงล้อมที่วุ่นวายนี้

          “ไม่เป็นไรนะหมีพูห์”  ไรโน่เห็นว่าแชมพูตัวสั่นจากการที่มีคนมาถูกซ้อมอยู่ตรงหน้า  เขาก็อยากจะเบี่ยงเบนความสนใจ

          “ไม่ใช่หมีพูห์นะ..ก็บอกว่าพี่เสือไงเล่า”  แชมพูแหวขึ้นมา

          “พี่เสือก็พี่เสือ”  แชมพูเป็นพวกลูกคุณหนู  ไม่เคยชินกับการต่อยตีเหมือนเขา  แค่มาเห็นคนถูกเตะจนเลือดสาดก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว

          “น้องน่ารักชื่ออะไรครับ  วันหลังพี่จะได้เลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษ” เมาเท่นหันมาถามแชมพูทั้งที่เท้าก็ยังขยี้ที่ใบหน้าคนอื่นอยู่  จนคนมองต่างสยองไปตามกัน

          “งื้อ…ไรโน่!”  แชมพูซุกหน้าลงกับเสื้อสีขาวของไรโน่เพราะกลัวเมาเท่น

          “ไม่เป็นไรครับ..พวกเราคงไม่รบกวนคุณ” ไรโน่กำลังจะผละไปแต่ชนเข้ากับแผ่นอกของใครสักคนก่อน

          “เดินไม่มองทาง”  ฉกาจมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้

          “ขอโทษครับ”  เพราะตัวที่สูงกว่าหลายเท่า  ทำให้ไรโน่ที่ว่าสูงอยู่แล้วดูเตี้ยไปถนัดตา

          “เฮ้ยกาจจะไปไหนวะรอด้วย”  ทั้งเมาเท่นและออดี้วิ่งตามฉกาจกลับไปที่ร้าน  ทิ้งไรโน่และแชมพูให้งงกับอาการประหลาดของทั้งสาม


   

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Die for you..แม่ทัพตัวร้ายของนายฉกาจ



ตอนที่1


          โลกประหลาดที่ห้อมล้อมไปด้วยกำแพงสี่ด้าน  ข้าไม่เคยคิดว่ามันจะมีอยู่จริง  สัตว์ประหลาดในเกวียนเกราะ  พาหนะสองล้อที่ไม่ต้องใช้คนลาก นกเหล็กบนท้องฟ้า สถานที่แห่งนี้คือประเทศไทย  หากเจ้าจะถามว่ามันเกี่ยวกับข้าที่ตรงไหน  บางทีมันคงเริ่มตั้งแต่การต่อสู้ในครั้งนั้น

          ข้า นัมแจรยง ขุนศึกผู้ไร้พ่ายแห่งโชซอน  ออกนำทัพเข้าฟาดฟันศัตรูมาหลายปี  แต่ศึกสุดท้ายของชีวิตข้าพ่ายแพ้แก่ศัตรู  หากไม่เพราะการตลบหลังของพวกมันมีหรือข้าจะพ่ายให้กับพวกสุนัขเจ้าเล่ห์นั่น  แต่ข้าก็สามารถสังหารศัตรูคนสำคัญของแผ่นดินจนได้นับว่าไม่เสียที  ก่อนข้าจะตายในสนามรบชีวิตที่ผ่านมาความตายเป็นสิ่งเดียวที่ใกล้ชิดข้ายิ่งกว่าครอบครัว  ข้าเพียงอฐิษฐานให้ชาติหน้าหากเกิดใหม่ขอเป็นเพียงชายธรรมดาที่ได้อยู่กับครอบครัวที่สงบสุข

          และเมื่อข้ารู้สึกตัว  นัมแจรยง  ผู้นี้ก็เดินทางข้ามกาลเวลามากว่าพันปีสู่ร่างใหม่ของ  เด็กหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า  ภัทรษร  ปรีชาอำนาจสุวรรณ

          “คุณไรโน่  ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ” สตรีขุดขาวคือนางพยาบาล  พวกนางมีหน้าที่ดูแลข้าตอนร่างนี้ประสบอุบัติเหตุ  ตอนแรกพวกนางดูตกใจเมื่อข้าพูดภาษาต่างถิ่น  แต่เมื่อความทรงจำของเด็กหนุ่มไหลเวียนเข้ามาในหัวข้าก็สามารถสนทนากับพวกนางได้คล่องปาก

          “ครับ”  แม้ภายนอกข้าจะดูเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบเก้า  แต่ภายในข้าคือ นัมแจรยง  แม่ทัพอายุเข้าห้าสิบปี  นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีที่ข้าได้ฟื้นคืนชีพ  แต่มันเป็นเรื่องเศร้าที่เด็กหนุ่มอนาคตไกลผู้หนึ่ง  ต้องจบชีวิตของตนเพราะความไม่เอาไหนของตัวเอง  วิญญาณของเขาหลุดไปแล้วข้ารับรู้ได้  แทนที่ด้วยตัวข้าเอง  มันรู้สึกขมในอกเมื่อรู้ว่าอาจเป็นข้าเองที่มาแย่งร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้  แต่ข้าไม่เสียใจนานกับสิ่งที่เกิด  เมื่อสำนึกได้ว่าทั้งเขาและข้าต่างเป็นคนที่ตายแล้ว  และเมื่อฟ้าให้โอกาสเป็นหนที่สอง  ข้าจะช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตของเด็กหนุ่มนี้เป็นการตอบแทน

          “คุณไรโน่  อีกไม่กี่วันคุณหมอคงจะให้กลับบ้านได้แล้วนะคะ” นางพยาบาลยิ้มให้แล้วเข็นรถออกไป

          “เจ้าเด็กนี่อนาคตคงไม่พ้นเป็นขันที  ดูรูปร่างอ้อนแอ้นนี่สิ”  ร่างกายใหม่ของข้าดูบอบบางเหมือนสตรีจนบางทีข้าเองก็เข้าใจผิด

          ไรโน่ไม่ชอบออกกำลังกาย  ไม่ชอบแสงแดด  ไม่ชอบคนเยอะ  ช่างเป็นเด็กตัวปัญหาที่สร้างแต่ความยุ่งยากให้บุพการี  เพราะสิ่งที่เรียกว่าขาดความอบอุ่น ไรโน่จึงมักใช้วิธีที่ผิดแก้ปัญหา  เสพสิ่งผิดกฏหมาย  คบสหายไม่ดี  ไม่ตั้งใจเล่าเรียน  เสเพล  บางครั้งยังทะเลาะกับเหล่าสหายในสถานเริงรมย์

          “เจ้าต้องเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่เด็กน้อย  นัมแจรยงผู้นี้จะช่วยเจ้าเอง”  ข้าเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างง่าย  วิดพื้นร้อยครั้ง ดึงข้อร้อยครั้ง วิ่งร้อยโล (คำเตือน:ระวังหัวล้าน)

          ร่างกายนี้ยังต้องการฝึกฝนวิชาต่อสู้  เพราะขาดความคล่องแคล่ว  ข้าจะเลิกเสเพลและพาเจ้าก้าวเดินสู่หนทางที่ถูกต้องเอง

          “ไรโน่ ไงเพื่อนสบายดีแล้วไงวะ  ตอนแกน็อกคาพวงมาลัยพวกเรากลัวกันแทบตาย”  เด็กหนุ่มท่าทางปวกเปียกพวกนี้เป็นเพื่อนกับไรโน่

          พวกมันทิ้งไรโน่ให้ตายแล้วหนีเอาตัวรอด  คนเช่นนี้ข้าไม่นับเป็นสหายตลอดเวลาไม่เคยมาเยี่ยม  แต่พอจะออกจากโรงพยาบาลพวกมันกลับเสนอหน้ามา  มันคงต้องการรู้ว่าข้าจะเอาเรื่องมันหรือไม่  แต่นัมแจรยงผู้นี้ไม่ใช่คนใจดีเช่นไรโน่  เจ้าเต้าหู้แคระพวกนี้เพียงข้าซัดฝ่ามือมันคงนอนเป็นหัวผักกาดในกระสอบป่าน

          “วันนี้จะกลับบ้านแล้ว  พวกเจ้า! พวกนายไปเถอะผมกลับเองได้”  ข้าเว้นระยะห่างความสัมพันธ์กับพวกมัน  เจ้าเด็กนี่ควรจะเลิกคบพวกนี้เสียที

          “ขอตัว”  ข้าไม่สนใจพวกมันอีก  ตรงไปที่รถที่มารอรับ  บิดาของไรโน่เป็นผู้นำมา

          “เลิกคบกับพวกนี้เถอะนะไรโน่  พ่อขอร้อง” การถูกชายคราวลูกเรียกขานด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มันทำให้อดีตแม่ทัพต้องปวดใจริงๆ

          “ครับ” เจ้าเป็นบิดาของไรโน่  แต่มิใช่บิดาข้านะเจ้าหนุ่ม

          “เดี๋ยวแวะซื้อของหน่อยนะครับ”  ข้าจะไปห้างสรรพสินค้า  ตามความทรงจำของไรโน่ที่นี่มีของบางอย่างที่ข้าต้องใช้

          อุปกรณ์ออกกำลังกายสินะ  ข้าสั่งซื้อพวกมันเพื่อปรับพื้นฐานของเจ้าเด็กปวกเปียกไรโน่  อีกไม่นานร่างกายนี้คงแบกรับวิชายุทธได้

          อีกสามวันถัดมาหลังจากหายดี  ทุกคนในเรือนต่างแปลกใจเมื่อเห็นคุณชายคนเดียวของบ้าน  ออกกำลังกายหนักหน่วงไม่เหมือนคนป่วยสักนิด  ไม่อยากจะบอกว่าแผลแค่นี้เทียบไม่ได้เลยกับแผลจากสนามรบที่ข้าเคยได้รับ

          มีครั้งหนึ่งข้าต้องรับลูกธนูถึงสิบดอกเพื่อคุ้มกันกษัตริย์  ข้ากลายเป็นหมอนเข็มมนุษย์ท่ามกลางสนามรบ  แต่ก็รอดชีวิตมาได้บาดแผลครั้งนั้นเปรียบดังเหรียญตราที่น่าภูมิใจสำหรับเหล่าทหาร

          “ไรโน่ออกกำลังกายหรอลูก  แบบนี้พ่อก็น่าจะมาด้วยดีไหม” ดวงตาของชายผู้นี้เต็มไปด้วยความหวัง

          “ก็ดีครับ”  ข้าตอบรับเขา  ท่าทางดีใจมากคงเป็นเพราะไรโน่ตอบรับคำพูดเป็นครั้งแรก  ดูท่าความสัมพันธ์ของเจ้าเด็กไรโน่กับบิดาจะไม่ค่อยดี

          “แหม!คุณพ่อขา  เอแคลร์ว่าอย่าไปยุ่งกับพี่ไรโน่เลยดีกว่านะคะ  เดี๋ยวเขาจะโมโหจนเอาหัวไปฟาดกับต้นไม้เข้าโรงหมออีก”  เอแคลร์น้องสาวต่างมารดาของเจ้าเด็กนี่

          ช่างเป็นเด็กสาวที่ไร้มารยาทยิ่ง  ข้าไม่คิดว่าสาวน้อยนางนี้จะได้พบคุณชายที่ดีในการออกเรือน  หากนางยังคงทำตัวเป็นถั่วเน่าไม่สำรวมกิริยาเช่นนี้  ทั้งหยาบคาย  เย่อหยิ่ง  จองหอง    คิ้วของข้าขมวดเป็นปมด้วยความไม่พอใจ

          “หุบปาก!  นังเด็กไร้มารยาท  เป็นหญิงก็ควรสำรวมกิริยา  มารดาไม่สอนเจ้าหรือว่าไม่ควรสอดปากในกิจของผู้อื่น” รังสีคุกคามของแม่ทัพยังใช้ได้อยู่เสมอ  ข้าแก่กว่าบิดาและมารดาเจ้า  เด็กวัยปฐมไม่ครณามือข้าหรอกนะ  อย่าริอาจมาเล่นหัว

          “อ้าย! พี่ไรโน่  กล้าดียังไงมาว่าคุณแม่” [>~<]   เอแคลร์กระทืบเท้าใบหน้าที่แต่งแต้มบิดเบี้ยวจนไม่น่ามอง

          “ หยุดเดี๋ยวนี้!”  เด็กสาวชะงักเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่  จ้องมองข้าเหมือนไม่เชื่อสายตา

          “เอ่อ ไรโน่น้องคงไม่ได้ตั้งใจพ่อว่า” ชายผู้นี้ก็เป็นเต้าหู้อีกก้อนไม่สมกับเป็นหัวหน้าตระกูล  เขายิ่งให้ท้ายธิดาเท่าไหร่  นางก็ยิ่งจะกลายเป็นมารน้อยและกลายเป็นนางมารที่แต่งไม่ออกไล่ก็ไม่ได้ของสกุลเจ้านะ

          ข้าจัดการสั่งสอนมารยาทนังหนูนี่ไปเสียหลายที  เด็กสาวอายุสิบห้าสมควรเป็นวัยที่งดงามเพียบพร้อมหากไม่ดัดตั้งแต่ตอนนี้  นางคงกลายเป็นผียายเฒ่าเฝ้าตระกูลแล้ว   ในวังเหล่านางกำนัลจะถูกอบรมด้วยซังกุงสูงวัย  มารยาทและระเบียบคือสิ่งสำคัญของการปฏิบัติตตนต่อหน้า จอฮา

          ตัวไรโน่มีสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับผู้คนรอบข้าง  ข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนสิ่งนี้  ไม่อาจปล่อยละเลยผ่านไปดังเจ้าเด็กคนเก่า  วันที่ไปโรงเรียนสายตานับร้อยจ้องมองมาที่ร่างนี้  มีทั้งเกลียดชัง  สงสัย  สนใจ และสมเพช  ก็แค่การเผชิญหน้าของเด็กทารกไม่สามารถสั่นคลอนชายผู้ผ่านสนามรบได้

          “ไงไรโน่  ได้ข่าวว่าเข้าโรงพยาบาล  ก็ดูไม่เห็นจะเป็นอะไรมากมาย อยากเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า”  เด็กชายตัวสูงคนหนึ่งเดินมาทักไรโน่  คำพูดเย้ยหยันแบบเด็กๆนั้นทำให้คิ้วของข้าเลิกขึ้นสูง

          “ผมไม่ทราบว่าคุณจะสนใจเรื่องของผมขนาดนี้  ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ผมสบายดีและยังจะมีชีวิตอีกยืนยาว”  ตอบนิ่มๆและทิ้งเหล่าเด็กน้อยไว้ข้างหลัง

          “มึงไอ้ไรโน่”  แค่คำพูดของข้าเจ้าเด็กนั่นก็เลือดเดือดแล้ว  อ่อนหัดอ่อนหัด

          “พี่วันนี้ไอ้ไรโน่มันท่าทางแปลกๆนะ”  ลิ่วล้อมองตาม

          “แปลกตรงไหน  เห็นไหมว่ามันกวนส้นข้า”  เวย์เป็นคู่อริฟ้าประทานของไรโน่  ที่ไหนมีไรโน่ที่นั่นต้องไม่มีวันเวย์  [• ~ •]
          “ผมว่ามันวันนี้ไรโน่มันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้นะพี่”  เป็นความรู้สึกของลูกสมุนที่ต้องคอยหลบพวกขาใหญ่ [°□°]!