ตอนที่2
จากการที่ไรโน่มาโรงเรียนในเปิดเทอมวันแรก เขาได้ปะทะฝีปากกับวันเวย์ศัตรูฟ้าประทาน และเป็นที่แน่นอนว่าชัยชนะจะตกอยู่ในมือของใคร นัมแจรยงไม่ใช่เด็กอมมือและไม่ใส่ใจการกลั่นแกล้งเล็กๆเหมือนแมลงวันตอมหางของวันเวย์
“เฮ้!ไรโน่เป็นไงมั่ง แกออกจากโรงบาลเมื่อไหร่เนี่ย ตอนฉันไปเยี่ยมแกเจอกับยัยเอแคลร์เน่าเลยไม่ได้เข้าไปหาโทษทีนะ” แชมพูหนุ่มน้อยหน้าหวานเพื่อนสนิทจริงๆเพียงคนเดียวของไรโน่เดินมาทักเมื่อเห็น คนที่น่าจะหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บ้านมาโรงเรียนด้วยอาการปกติ
“ทำไมวันนี้นายพูดมากนักหมีพูห์” ไรโน่ล้อชื่อที่เจ้าตัวแสนจะเกลียด
เพราะอะไรหน่ะหรอ ก็แชมพูชื่อที่แม่ตั้งให้มันเหมือนผู้หญิง แถมไรโน่ยังชอบเรียกว่าหมีพูห์ด้วย จะน่ารักไปไหน แก้มป่องๆนั้นตูมขึ้นเพราะไม่พอใจที่เพื่อนมาเรียกชื่อ
“ไรโน่ ไอ้บ้า! อย่ามาเรียกชื่อนี้เรานะ บอกให้เรียกพี่เสือไง พี่เสือ หัดจำใส่สมองมั่ง”
“ปิดเทอมนานหรือไงทำไมน่ารักขึ้นนะหมีพูห์” ไรโน่เอ็นดูสหายน้อย ที่ช่างจิ้มลิ้มเหมือนสาวแรกรุ่น ถ้าไม่ติดว่าเป็นชายแม่ทัพผู้นี้จะคว้ามากอดให้สมใจ
“ไอ้ไรโน่!” แชมพูเกลียดที่สุดเวลามีคนมาชมว่าน่ารัก
ตลอดคาบเรียนเขาตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอน แม้จะยากไปสักนิดที่จะทำความเข้าใจแต่ก็ไม่เกินความสามารถ ขณะที่ไรโน่สนใจการเรียน วันเวย์ก็จ้องมองแต่แผ่นหลังของเขา ในหัวคิดแต่หาวิธีเอาคืนให้ได้
“ไรโน่ วันเวย์มันมองแกตั้งแต่ต้นชั่วโมงแล้วนะ” แชมพูกระซิบบอก
“อืม” แค่ตอบรับในลำคอก่อนจะกลับไปสนใจกระดานดำ
ตลอดทั้งวันไรโน่ถูก วันเวย์ตามหาเรื่องตลอดจนกระทั่งเลิกเรียน นักเรียนช่างนับสิบคนมายืนอออยู่ปากประตูโรงเรียนกำลังมองหาใครบางคน เมื่อเห็นไรโน่พวกมันโห่ร้องพากันเดินเข้าหาหวังมีเรื่อง แต่พวกมันคิดผิดแล้ว นัมแจรยงผู้ไม่หันหลังให้ศัตรูไม่เคยออมมือกับผู้ที่ลงมือก่อน
“ได้ข่าวว่ากวนเบื้องล่างใช่ไหมครับน้อง” เด็กช่างหน้าแก่ที่สุด แถมไว้หนวดจนดูไม่เหมือนนักเรียนออกหน้าก่อน
“จะรีบไปไหนครับน้อง ให้พวกพี่ไปส่งเพื่อนน้องดีไหมครับ” แชมพูที่เดินมาด้วยกัน กลายเป็นเป้าหมายใหม่
“ไรโน่..ไปเหอะเร็วๆ!” แชมพูเร่งให้ออกเดิน เพราะพวกเด็กเกเรทำท่าจะเข้ามาจับมือตัวเองแล้ว
“เดี๋ยวจะไปไหน เพื่อนน้องพี่จะดูแลให้เอง ส่วนมึงพวกกูคงต้องขอให้มาเป็นกระสอบทรายสักวัน” พวกมันเฮฮากันสนุกปาก เมื่อเห็นไรโน่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“โอ้ย..! ปล่อยสิวะ ไรโน่ช่วยด้วย” เมื่อเด็กช่างคนหนึ่งกระชากแขนของแชมพูเข้าหาตัว ไรโน่ก็ซัดฝ่ามือเข้ากลางอกมันจนกองลงไปกับพื้น แล้วดันแชมพูมาไว้ข้างหลัง
นักเรียนรอบด้านต่างไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม แม้แต่อาจารย์เองก็ทำได้แค่ยืนดูอยู่ห่างๆ บ้างก็รีบโทรแจ้งตำรวจ เสียงซุบซิบดังขึ้นเมื่อทุกคนไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แชมพูก็กลับมาหลบอยู่ไรโน่แล้ว ส่วนเด็กช่างคนนั้นก็หมอบลงไปแน่นิ่งกับพื้น
“มึง…” แค่คำเดียว แรงเตะหนักหน่วงของไรโน่ก็แสดงให้เห็นว่ามีพลังขนาดไหน
พูดไม่จบประโยคดี เด็กช่างอีกคนที่ร่วงเป็นใบไม้ นอนคอพับชักกะตุกอยู่ที่พื้น คนที่เหลือต่างถอยหนี เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมรอบทิศ ในความรวดเร็วและแม่นยำของลูกเตะสายฟ้าที่ทุกคนตั้งชื่อให้
หมัดขวาซัดเข้าที่ลิ้นปี่ของอีกคนจนลิ้นห้อย มันจุกจนพูดไม่ออกก็ถูกเข่ากระแทกเข้าที่ท้อง จนต้องขย้อนเอาน้ำเหนียวๆในกระเพาะออกมา
“ไอ้เด็กนั่นฝีมือไม่เลวเลยว่ะ” ร่างปริศนาในชุดช็อปสีเลือดหมู นั่งมองการวิวาทของเด็กๆอยู่อีกฝั่งในร้านขายขนม
“ลูกเตะเมื่อกี้แมร่งอย่างเจ๋ง! ยังกับบัวขาว” อีกคนสนับสนุน
“กาจมึงสนใจที่พวกกูพูดหน่อยสิเฮ้ย!” เพื่อนทั้งสองมองไปที่ฉกาจ ผู้มีใบหน้าตายด้านไม่รู้สึกรู้สาใดใด
“ออดี้มึงดูเพื่อนมึงนะ” เมาเท่นเรียกออดี้ให้ดูสายตาของฉกาจที่นับวันจะเป็นผีดิบขึ้นทุกที
“เก็กหน้าเอาโล่หรอครับเพื่อน หรือมึงหลับใน” ออดี้โบกมือตรงหน้าฉกาจยืนยันว่า อีกฝ่ายยังไม่ได้หลับ
“ก็แค่เด็กตีกัน” ฉกาจปัดมือออดี้ออกอย่างรำคาญ
“แต่ไอ้เด็กนั่นมันหน่วยก้านใช้ได้เลยนะ โตขึ้นไม่รู้จะร้ายกาจขนาดไหน” เมาเท่นออกความเห็นเมื่อเจอแม่ไม้มวยไทยของไรโน่
“ออดี้มึงดูเพื่อนมันอีกคนดิที่ยืนข้างๆกัน โคตรน่ารักเลย” เมาเท่นหมายถึงแชมพู
“แฟนไอ้เด็กโหดนั่นหรือเปล่าวะ” ออดี้เห็นแชมพูเกาะแขนไรโน่แน่นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
“กูจะไปดูน้องน่ารักหน่อย เพื่อฟลุ๊ค” เมาเท่นเดินออกไปที่กลุ่มยองเด็กช่าง
ตอนนี้มีห้าคนที่นอนหมอบกับพื้นไปแล้ว บรรดานักเรียนมุงทั้งหลายต่างใบ้กิน เมื่อเจอบัวขาวตัวเป็นๆ ทั้งเข่าศอก หมัดและลูกเตะที่เรียกได้ว่าแรงวัวแรงควายจากขายาวๆนั้น
“เฮ้ย!พวกมึงสนุกกันมากไหม” เมาเท่นเดินไปเหยียบหัวเด็กช่างคนหนึ่ง
“พะ..พี่เมาเท่น” ถึงกับติดอ่างเมื่อเห็นเมาเท่นที่ไม่คิดว่าจะมาปรากฏตัวแถวนี้
เมาเท่นเป็นรุ่นพี่ช่างที่ใครใครต่างก็รู้จักดี แต่ว่าถ้าเป็นแค่รุ่นพี่ธรรมดาพวกเขาคงจะไม่เกร็งกันขนาดนี้ เมาเท่นเป็นเด็กแก๊งค์แถมเป็นแก๊งค์ที่มีอิทธิพลไม่ธรรมดาด้วย เพราะโรงเรียนของไรโน่นั้นอยู่ในเขตของแก๊งค์ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าหากเขาจะมาปรากฏตัว
“ใครใช้มึงมาหาเรื่องเด็กนี่วะ” เมาเท่นบดรองเท้าที่หน้าแรงขึ้น และชะโงกตัวลงมาถามอย่างยียวน
“ผม..พวกผมขอโทษพี่ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว” ระหว่างเงินนิดหน่อยกับชีวิตใครก็ต้องเลือกชีวิตอยู่แล้ว
“กูถามไม่ได้ยิน?” เมาเท่นไม่ใช่คนใจเย็น ถึงท่าทางจะขี้เล่นแต่เขานับได้ว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนทีเดียว
“ผมไม่รู้พี่…รู้แต่ไอ้เด็กนั่นมันไม่ถูกกัน..เลยมาหาพวกผมพร้อมเงินอีกสามหมื่น” พอได้ฟังที่มันสารภาพเมาเท่นก็ยิ่งโมโห
“มึงกล้าเข้ามากร่างในเขตกูเพราะเงินแค่สามหมื่นเองเนี่ยนะ นี่มึงโง่หรือโง่กันวะ” เท้าที่สวมรองเท้าหนังหัวเหล็กเตะเข้าที่ใบหน้าของหนึ่งในนั้น จนเลือดกระเซ็นเต็มรองเท้า
“ฮึ่ย!..ไรโน่ไปกันเถอะเรากลัว” แชมพูทำท่าดึงไรโน่ออกจากวงล้อมที่วุ่นวายนี้
“ไม่เป็นไรนะหมีพูห์” ไรโน่เห็นว่าแชมพูตัวสั่นจากการที่มีคนมาถูกซ้อมอยู่ตรงหน้า เขาก็อยากจะเบี่ยงเบนความสนใจ
“ไม่ใช่หมีพูห์นะ..ก็บอกว่าพี่เสือไงเล่า” แชมพูแหวขึ้นมา
“พี่เสือก็พี่เสือ” แชมพูเป็นพวกลูกคุณหนู ไม่เคยชินกับการต่อยตีเหมือนเขา แค่มาเห็นคนถูกเตะจนเลือดสาดก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว
“น้องน่ารักชื่ออะไรครับ วันหลังพี่จะได้เลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษ” เมาเท่นหันมาถามแชมพูทั้งที่เท้าก็ยังขยี้ที่ใบหน้าคนอื่นอยู่ จนคนมองต่างสยองไปตามกัน
“งื้อ…ไรโน่!” แชมพูซุกหน้าลงกับเสื้อสีขาวของไรโน่เพราะกลัวเมาเท่น
“ไม่เป็นไรครับ..พวกเราคงไม่รบกวนคุณ” ไรโน่กำลังจะผละไปแต่ชนเข้ากับแผ่นอกของใครสักคนก่อน
“เดินไม่มองทาง” ฉกาจมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้
“ขอโทษครับ” เพราะตัวที่สูงกว่าหลายเท่า ทำให้ไรโน่ที่ว่าสูงอยู่แล้วดูเตี้ยไปถนัดตา
“เฮ้ยกาจจะไปไหนวะรอด้วย” ทั้งเมาเท่นและออดี้วิ่งตามฉกาจกลับไปที่ร้าน ทิ้งไรโน่และแชมพูให้งงกับอาการประหลาดของทั้งสาม